วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Nord Wave's Oscillator

สวัสดีครับ ครั้งที่แล้วอธิบายมาถึงเรื่องของ Envelope นั่นคือวิธีการที่พบบ่อยในระบบของ Synthesizer ซึ่งเวลาที่เราเล่นโน้ตด้วยการกดคีย์เปียโน แล้วอยากให้เสียงดังออกมาแบบ Slow Attack คือค่อยๆดังออกมา หรือจะให้เสียง Release ค้างยาวออกไป หรือจะให้สั้นห้วนแค่ไหน อันนี้ควบคุมด้วยการตั้งค่าของ Envelope เอาไว้ก่อน ซึ่งเท่ากับว่าเสียงของเราถูก Modulation กับ Envelope ไว้แล้วนั่นเอง ส่วนคราวนี้มารู้จักต้นตอของเสียงที่นำมา Synthesis กันบ้าง

Oscillators (OSC1 &OSC2)
ในส่วนของ OSCILLATOR นั้น เป็นภาคของการผลิต waveform ที่มากับ harmonic หลายๆแบบ นี่เป็นคุณสมบัติสำคัญของเสียงเพราะสามารถนำไปเปลี่ยนรูปร่างได้อีกหรือจะมา Modulate กันทีหลังก็ได้ตามแต่เราจะกำหนด ที่ Nord Wave จะให้มี OSCILLATOR มา 2 ตัว ใช้ได้พร้อมกัน ซึ่งเราจะนำมา Mix หรือจะนำมา Modulate กันเองก็ได้ เพื่อจะเกิดโครงสร้างของ harmonic ที่ซับซ้อนขึ้นไปอีก
ใน OSC 1 และ 2 จะมีสวิตซ์กดเลือก Waveform โดยมีให้เลือกดังนี้

Pulse
เลือกได้ทั้งจาก OSC1 และ 2 ซึ่งจะเสียงจาก pulse นี้จะมีคาแรคเตอร์แบบ hollow (โปร่ง) มากับ harmonic ที่เป็นจำนวนคี่เท่านั้น ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามความกว้างของ pulse สำหรับ pulse ที่ขนาดแคบๆจะได้ยิน harmonic มากกว่า มีเทคนิคที่เรานำ LFO ไป Modulate กับความกว้างของ Pulse นี้เพื่อให้เปลี่ยนแปลงไปมา เราเรียกเทคนิคนี้ว่า Pulse Width Modulation (PWM) ซึ่งจะได้เสียง Strings สังเคราะห์ที่เจอบ่อยๆ
เราใช้ปุ่ม Shape ในการปรับความกว้างของ Pulse แต่ถ้า OSC1 อยู่ใน Sync mode ปุ่ม Shape จะใช้ปรับค่า pitch ของ pulse แทนโดนความกว้างของ pulse จะอยู่ที่ 33%
*หมายเหตุ ปุ่ม Sync โหมด กดเพื่อให้ OSC 1 และ 2 มี pitch ที่สอดคล้องกันตลอด โดยสามารถปรับเปลี่ยนค่า pitch ได้ที่ปุ่ม shape ของ OSC 1

Sawtooth
เลือกได้ทั้งจาก OSC1 และ 2 เช่นกัน ซึ่งจะเสียงจาก sawtooth นี้จะมีผลิตซาวน์ที่เรียกว่า Rich ได้เพราะมันมีจำนวน harmonic ทั้งคู่และคี่
ปุ่ม shape ไม่มีผลอะไรกับ sawtooth นี้ แต่ถ้าอยู่ใน Sync mode ปุ่ม Shape ก็จะใช้ปรับค่า pitch ของ OSC ทั้งสองตัวแทน

Triangle
เลือกได้ทั้งจาก OSC1 และ 2 อีกเช่นกัน แต่มีแค่ harmonic จำนวนคี่เท่านั้น เสียงออกไปทางนุ่มนวล
ปุ่ม shape ไม่มีผลอะไรกับ sawtooth นี้ แต่ถ้าอยู่ใน Sync mode ปุ่ม Shape ก็จะใช้ปรับค่า pitch ของ OSC ทั้งสองตัวแทน

Wave
Wavetables (Wave) เลือกได้จาก OSC1 เท่านั้น โดยจะมี Waveform ต่างๆในตารางเสียงให้เลือก แต่ละอันจะเป็นแซมเปิ้ลเสียงขนาดสั้นๆแค่หนึ่งรอบ (Single Cycle Sample) การเลือกใช้ Wave มา Synthesis ต่อนั้น จะสามารถมีเสียงที่ Rich และหลากหลายมากขึ้นกว่า Waveform พื้นฐาน ในตารางเสียงนี้มีทั้งหมด 62 wavetables โดยใช้ LED-dial หมุนเลือกซึ่งจะแสดงชื่อในจอ LCD
ปุ่ม shape ไม่มีผลอะไรกับ Wave เลย

Sample Instruments
Sample Instruments หรือ SAMP นั้นเลือกได้จาก OSC2 เท่านั้น นั่นคือชุด Sample เสียงเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ พร้อมเล่นเป็นเครื่องดนตรีนั้นได้ทันที มีได้ถึง 99 Sample Instruments ที่ผลิตมาจากโรงงานและสามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้มากมายโดยเชื่อมต่อกับ PC หรือ MAC จะพูดถึงส่วนนี้ทีหลัง

Sampled Waves
Sampled waves (SWAV) นั้นเลือกได้จาก OSC2 เท่านั้น ใกล้เคียงกับ wavetables แต่จะเป็นแซมเปิ้ลของเสียงเครื่องดนตรีอะคูวสติคซึ่งจะมีส่วนของเสียง attack ธรรมชาติตามที่มา ต่อจากนั้นจะเป็นส่วนที่ loop ได้เพื่อให้เสียงนั้นยาวขึ้นได้
ปุ่ม Shape2/Decay ของ OSC2 จะใช้กำหนดความสั้นยาวของเสียง (Decay) สำหรับทั้ง SWAVE และ Sample InstrumentsS

FM-Synthesis
FM-Synthesis (FM) หรือการสังเคราะห์แบบ Frequency Modulation เลือกได้จาก OSC1 และ OSC2 โดยวิธีการ Modulation แบบ FM นี้จะใช้ความถี่ (Frequency) ของ oscillator ตัวหนึ่งเป็น “พาหะ” (Carrier) ซึ่งจะนำไป modulated กับ wave ที่ได้จาก oscillator ตัวอื่น (the Modulator) ผลที่ได้คือ ความของ Carrier จะเปลี่ยนแปลงตาม amplitude ของ modulator wave สำหรับใน OSC1 และ2 นี้สามารถเลือกให้ modulated กับตัวมันเองโดยใช้วิธีการป้อนกลับสัญญาณ (feedback)
ปุ่ม Shape จะใช้ปรับเพื่อป้อนกลับสัญญาณ(ตัวมันเอง) เพื่อทำการ frequency modulated น้อยไปมาก
รูปที่สองนี้นอกจากจะทำการ frequency modulated โดยตัวเองจาก OSC1 และ 2 แล้วยังนับผลลัพธ์ทั้งสองมา modulates กันเองอีกแล้วจึงนำผลลัพธ์มา Mix กัน ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายนั้นไปไกลกว่า waveform พื้นฐานเช่น Sine มากนัก เราจะได้ทั้งโทนเสียงและ harmonic ที่เพิ่มขึ้นด้วยวิธีการ FM-Synthesis (FM) นี้เอง
การ Modualtion หลายซับหลายซ้อนนี้ ยังมีอีกมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งเราจะใช้คำว่า “อัลกอริทึ่ม” หรือ FM Algorithm จากการทดลองมากมาย ผู้ผลิต Syhtesiser แบบ FM จึงมีอัลกอริทึ่มเด่นๆมาให้เลือกลอง สำหรับ Nord Wave นั้นจัดมาทั้งหมด 19 อัลกอริทึ่มตามตารางนี้
ปุ่ม Shape2 และ Shape1 ใช้ปรับปริมาณการ frequency modulated น้อยไปมาก
ปุ่ม LED-dial ใช้เลือกto select FM-algorithm.
วิธีอ่านตาราง บนตารางจะมีคำว่า OP มาจาก Operator หมายถึง oscillators จำนวน 2 ตัว โดยกำหนดให้ตัวหนึ่งเป็น Carrier และอีกตัวหนึ่งเป็น Modulator เราเรียการเซ็ทอัพนี้ว่า 2 operator FM-Synthesis, เขียนย่อว่า 2-OP แสดงในจอ LCD

Feedback เป็นการป้อนกลับสัญญาณตัวมันเองไป modulate กับตัวเอง ปุ่ม shape จะใช้ควบคุมปริมาณการป้อนกลับและการ modulation ไปในตัว
Frequency ratio
โดยการกำหนดให้ the Modulator มีความถี่แตกต่างไปจาก Carrier ตามอัตราส่วน ซึ่งผลจากการ modulate กันแล้วจะได้ harmonic แตกต่างไปอีก
จากรูปแสดงการ modulation ระหว่าง Modulator ซึ่งมีความถี่สูงกว่าความถี่ของ Carrier เป็นอัตราส่วน 9:1 และผลลัพธ์ที่ได้

Sine
กลับมาพูดถึง Sine ซึ่งเป็น waveform พื้นฐานกลับไม่มีให้เลือกโดยตรงใน OSC1 และ2 แต่เราสามารถสร้างได้โดยเลือกเป็น FM แล้วปรับที่ปุ่ม shape เป็นศูนย์ นั่นคือไม่ modulate เลย

Misc
Misc ได้แก่ waveform อื่นๆ มีให้เลือกใน OSC1 เท่านั้นซึ่งจะมีบรรดาพวก noise ให้เลือกอยู่ด้วย

Noise
เมื่อเลือกให้เป็น noise ซึ่ง waveform ชนิดนี้จะไม่มีระดับเสียงเหมือน waveform อื่นๆ แต่จะมี color ซึ่งหมายถึงองค์ประกอบของความถี่แทน โดยปุ่ม shape1 จะแทนด้วย lowpass filter เมื่อหมุนตามเข็มไปซาวน์ของ noise จะสว่างขึ้น และถ้าหมุนไปสุดจะใกล้เคียงกับ white noise คือทุกๆความถี่จะแสดงออกเป็นพลังงานเท่ากัน

SEMI TONES knob
อยู่ที่ OSC2 ใช้ปรับค่า pitch ของ oscillator2 สัมพัทธ์กับ oscillator1 ไปทีละครึ่งเสียง ได้จาก -24 semi tones หรือ -2 octaves ไปถึง +24 semi tones หรือ +2 octaves นั่นเอง

Fine tue knob
ใช้ปรับค่า pitch โดยละเอียดคือ +-50 semitones
ถ้าเรา Mix OSC ทั้งสองเท่ากันและให้มี pitch เท่ากันด้วย เมื่อปรับค่า Fintune pitch ของ OSC2 ไปเล็กน้อยนั่นคือให้เพี้ยนกันเพียงเล็กน้อยจะทำให้ซาวน์ฟัง “rich” ขึ้นมาได้ นี่เป็นเทคนิคเดียวกับการออกแบบเครื่องดนตรีอะคูวสติคที่เคยมีมาเช่น แอคคอเดี้ยน หรือ กีตาร์12สาย

Oscillator Modulation (OSC MoD)
ที่ปุ่ม oscillator modulation นั้นคือปรับให้ OSC2 ทำการ modulating กับ OSC1 ซึ่งบน Nord Wave มีชนิดของการ mod ให้เลือกทำได้สองแบบคือ Frequency Modulation และ Phase Modulation
เราจะได้ผลจากการ Mod กันเองนี้ทาง OSC1 ซึ่งจะมี harmonic ที่เปลี่ยนไปในขณะที่ Frequency เดิม หากต้องการฟัง OSC2 ด้วยก็สามารถปรับที่ปุ่ม OSC Mix ได้เช่นเคย

Frequency Modulation (fm)
วิธีการนี้จะทำให้เกิดช่วงความถี่ที่กว้างขึ้น (wider spectrum) และผลลัพธ์ของเสียงนั้นจะรู้สึกได้ว่าดิบและสว่างกว่าปกติ ส่วนองค์ประกอบของ harmonic นั้นเปลี่ยนไปอย่างดุเดือดขึ้นกับช่วงโน้ตที่เราเล่น ดังนั้นแต่ละโน้ตอาจจะให้ซาวน์ไม่เท่ากันเป็นเรื่องปกติ
Phase Modulation (PM)
วิธีการนี้จะทำให้เกิด harmonic ที่สัมพัทธ์เหมือนกันตลอดไม่ว่าเราจะเล่นโน้ตในช่วงไหน จึงให้ซาวน์ที่ราบรื่น
เลือกวิธีการ Modualtion กับปริมาณการ Mod ได้จากปุ่ม Type และ Amount ตามลำดับ

Oscillator mix
ปุ่ม OSC Mix นั้นใช้ปรับบาลานซ์ความดังระหว่าง OSC1 และ 2 เราสามารถเอาแต่เสียง OSC1 อย่างเดียวได้โดยบิดไปทางซ้ายสุด หรือกลับกัน

ไม่มีความคิดเห็น: